Ticker

6/recent/ticker-posts

จับหนุ่ม CEO บริษัท(ม้า) เปิดแค่ 3 เดือน เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้าน

 จับหนุ่ม CEO บริษัท(ม้า) เปิดแค่ 3 เดือน เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้าน


กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) จับกุม นายกฤษฎาฯ อายุ 23 ปี กระทำความผิดฐาน “เปิดบัญชีม้า”

.

เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการขยายผลจากคดีที่เกี่ยวมีผู้เสียหายจำนวนมากถูกหลอกให้ลงทุนผ่านแอปพลิเคชั่น ซึ่งมีผู้เสียหายกว่า 50 ราย รวมมูลค่าความเสียหายเป็นเงินจำนวนกว่า 800 ล้านบาท โดยจากการสืบสวนขยายผลในส่วนของสินทรัพย์ดิจิทัล


พบว่ามีบัญชีธนาคารของบริษัทแห่งหนึ่งมีการทำธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับผู้ต้องหาในคดี ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีเงินหมุนเวียนในบริษัทในช่วงที่เกิดเหตุ

เป็นจำนวนเงินกว่า 500 ล้านบาท ในระยะเวลาแค่ 3 เดือน หลังจากมีการจดทะเบียนบริษัท โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้สืบสวนจนพบตัวของ นายกฤษฎา ฯ กรรมการบริษัทดังกล่าว และนำตัวมาเพื่อสอบปากคำ

.

ซึ่งนายกฤษฎาฯ ให้การว่าตนได้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารให้ใช้กับนางสาวพลอย ได้รับค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 500 บาท โดยมีขั้นตอนของการเริ่มจดทะเบียนเปิดบริษัทที่ได้ลงลายมือชื่อในเอกสารที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนบริษัทและส่งให้นางสาวพลอย จากนั้นเมื่อได้เอกสารเกี่ยวกับบริษัทมาแล้ว ได้นำไปเปิดบัญชีธนาคาร

 .

เมื่อได้บัญชีธนาคารมาก็ได้ส่งสมุดบัญชีธนาคารและซิมเบอร์โทรศัพท์ ไปให้นางสาวพลอย หลังจากการสอบปากคำแล้ว พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ดังต่อไปนี้.

​(1) ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ

​(2) ร่วมกันเป็นอั้งยี่

​(3) ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น

​(4) โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน

​(5) สบคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกันและร่วมกันฟอกเงิน

​(6) เปิด หรือ ยินยอมให้บุคคลอื่น ใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนฯ


​โดยหลังจากแจ้งข้อกล่าวหาแล้ว ได้ดำเนินการส่งฟ้องตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบี้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในข้อหาเปิดบัญชีม้า

 

เครดิตภาพ-ข่าว #Thaipress #ไทยเพรสส์ 

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น